และแล้วก็มาถึงหัวข้อการเลือกซื้อและการจัดเตรียมสถานที่สำหรับการเลี้ยงกุ้งเครย์ฟิชนะครับ ในบ้านเรา พื้นที่ๆสะดวกในการเลือกซื้อหาเครฟิช ก็มีหลากหลายที่ เช่น ตลาดนัดสวนจตุจักร , ตลาดนัดจตุจักร มีนบุรี , ตลาดสนามหลวง 2 หรือแม้กระทั่ง หน้าห้างสรรพสินค้า บางแห่ง เดี๋ยวนี้ ก็มีพ่อค้าแม่ค้า ที่ค้าขายสัตว์เลี้ยงสวยงาม นำเอากุ้งเครฟิช บางสายพันธุ์ มาใส่ตู้เล็กๆ ขายเหมือนกัน อาจจะเป็นเพราะว่ามีพื้นที่ๆจำกัดในการวางสินค้า แต่ถ้าผู้เลี้ยงเกิดความเข้าใจผิด ว่าตู้ขนาดเล็กๆ นั้นสามารถเลี้ยงได้ ก็อาจจะเกิดความยุ่งยากในการเลี้ยงได้มากพอดูล่ะครับ
ผู้เลี้ยงหลายๆท่าน อาจจะมีความคิดว่าการเริ่มเลี้ยงกุ้ง หรือสัตว์น้ำต่างๆนั้น การเลือกใช้ตู้เล็กๆ เป็นการเริ่มต้นที่ง่ายกว่า ตู้ใหญ่ๆ ซึ่งนับว่าเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ไปมากพอสมควร เพราะว่าถ้าขนาดตู้ที่เล็กเกินไปนั้น กลับทำให้การดูแลระบบ หรือคุณภาพน้ำ นั้นทำได้ยาก เนื่องจากอุณหภูมิและค่าต่างๆในน้ำ จะมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และ ไม่เสถียร ซึ่งส่งผลกระทบกับการเลี้ยงสัตว์น้ำ และ กุ้งของเราเป็นอย่างมาก และการที่ร้านค้าหลายๆร้าน ได้มีการเลี้ยงกุ้งไว้ในน้ำตื้นๆ บางทีเพียงแค่ท่วมตัวเอาไว้นิดหน่อยก็มี เนื่องจากความสะดวกในการขนย้าย หรือ เปลี่ยนน้ำได้สบาย ลูกค้าเองก็หยิบจับ หรือ พิจารณากุ้งได้สะดวก กลับกลายเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่อาจจะทำให้เกิด ความเข้าใจผิดในการเลี้ยง นำไปสู่ความสูญเสีย ที่ไม่ควรบังเกิดได้มากมาย เช่นการที่น้ำมีความสูงต่ำ ทำให้กุ้งหลบหลีก ต่อการปะทะได้ลำบาก หากเป็นการเลี้ยงรวม และที่เป็นอันตรายต่อกุ้งอีกอย่างหนึ่งก็คือ เมื่อกุ้งเครย์ฟิช มีการลอกคราบ อาจจะเกิดปัญหาในระหว่างการดันคราบ ให้ออกจากตัว เนื่องจากติดแรงโน้มถ่วงของน้ำได้ ซึ่งทำให้เกิดความสูญเสียอย่างน่าเสียดาย ผู้เลี้ยงบางพี่ๆน้องๆ ก็เข้าใจไม่ถูกต้อง บางทีก็ให้อาหาร กุ้งเครฟิช ไว้บนบกก็มี ด้วยนึกว่าว่ากุ้งเครฟิช เป็นสัตว์ครึ่งบก ครึ่งน้ำ เหมือนญาติๆ ของมัน ที่สามารถหากินได้ทั้งในน้ำ และ บนบก ได้เช่นปู กว่าจะรู้ความจริง เจ้าเครฟิช ตัวน้อย ก็อดอาหารไปเสียหลายวัน บางคนก็ตกใจว่าทำไม กุ้งไม่กินอาหาร นึกว่าป่วย หรือ มีปัญหาใดๆ ก็มี เป็นเคสที่กระผมเคยเจอมา จากการรับปรึกษาปัญหาเกี่ยวกับการเลี้ยงกุ้ง หรือ พี่ๆน้องๆในเว็บ Aquac1ub.net โทรมาปรึกษา ดังนั้นถ้าพี่ๆน้องๆสนใจที่จะเลี้ยง กุ้งเครย์ฟิช อย่างแรกที่ต้องคำนึงเลย ก็คือ ภาชนะสำหรับใส่น้ำนั่นเอง ซึ่งแต่ละพี่ๆน้องๆ อาจจะสะดวกแตกต่างกันไป ซึ่งก็ต้องขึ้นกับปัจจัยหลายๆประการ เช่นบางพี่ๆน้องๆที่พักอาศัยตามอพาร์ตเม็นทต์ , หอพัก ที่มีพื้นที่จำกัด แต่เจ้าของใจดี อนุญาตให้เลี้ยงได้ ( บางที่ก็ไม่อนุญาต ยังไงต้องลองสอบถามกันก่อนนะครับ จะได้ไม่ผิดใจกัน หรือมีปัญหา แต่บางที่ก็อะลุ่มอะหล่วย หรือเฉยๆ ครับ ) ก็อาจจะใช้ตู้ประมาณซัก 20 – 24 นิ้ว ซึ่งมีขนาดไม่ใหญ่นัก ก็สามารถเลี้ยงกุ้งเครย์ฟิช สายพันธุ์ที่ขนาดไม่ใหญ่ได้แล้ว หรือถ้าพี่ๆน้องๆ ถูกใจอย่างเร่งด่วน ยังไม่สะดวกจะซื้อตู้เลยทันทีในขณะนี้ จะนำไปเลี้ยงในกาละมัง หรือ ถังพลาสติกใหญ่ๆ ก่อน ก็ไม่มีปัญหาครับ บางท่านหัวใส นำไปเลี้ยงในอ่างปูนกักน้ำ เอาไว้อาบที่บ้านก็มี แต่อันนี้ อาจจะมีเปอร์เซ็นต์เสี่ยง ต่อการโดนสารเคมี จำพวกสบู่ หรือแชมพูได้ครับ ไม่ใคร่อยากจะแนะนำเท่าใด แต่ถ้าเป็นสายพันธุ์ที่มีขนาดใหญ่ เช่น กุ้งเรนโบว์ ( Cherax - quadicarinatus ) หรือ กุ้งบลูเพิร์ล ( Cherax Albidus หรือบางสายพันธุ์ที่มีลักษณะใกล้เคียงกันมากเช่น Cherax Destructor “ blue “) ซึ่งพวกนี้ ในที่เลี้ยงอาจจะเติบโตได้ถึง 6 – 10 นิ้ว ไม่รวมก้าม ตู้ขนาด 24 นิ้ว อาจจะไม่ใคร่เหมาะสมนักในการเลี้ยง นอกจากนี้ ปัจจุบัน ยังมีเครย์ฟิช ขนาดกลางๆ และ เครย์ฟิช ขนาดเล็ก ซึ่งสามารถนำมาเลี้ยงในตู้ไม้น้ำได้ มาให้ได้ลองเลี้ยงกันอีกด้วย
ส่วนเทคนิค ในการเลือกกุ้งเครย์ฟิช นั้น ก่อนอื่น ต้องดูปฏิกิริยาของกุ้งเครฟิช ที่ต้องการจะซื้อครับ ถ้ามีอาการหมอบราบคาบแก้ว นอนแน่นิ่ง ไม่มีปฏิกิริยา ตาไม่กระดิก หางไม่ขยับ แสดงว่าตายแล้วครับ บอกให้คนขายเอาไปทำอะไรกินได้เลย เอาไว้ก็เหม็นเสียเปล่าๆ ต้มเผื่อด้วยสองตัว เอ๊ย ไม่ใช่ แบบน้านนนน !!! กุ้งเครฟิชที่สภาพ ( น่าจะ ) แข็งแรงอยู่ จะมีอาการปกป้องตัวเอง เช่นการชูก้ามขู่อนาคตผู้เลี้ยง อย่างแข็งขัน แบบนี้ส่อแวว เป็นเครฟิชที่แข็งแรงดีครับ ( แม้ว่าจะไม่ถึงกับเรียกได้ว่ามีเปอร์เซ็นต์ รอดร้อยเปอร์เซ็นต์ก็ตาม ) นอกจากนี้กุ้งที่แข็งแรงก็จะมีปฏิกิริยาที่ดี เดินหากิน ในกะบะ หรือบางตัวแข็งขัน อารมณ์ดี ก็ทำบัดสีบัดเถลิง กับตัวเมียในที่เดียวกันเลยก็มี ซึ่งกระผมเองเห็นแล้ว ก็มักจะทนบ่ได้ ยืนรอจองไว้ แล้วเอากลับไปลงโทษด้วยการแยกตัวเมียไปให้อยู่อย่างสงบสันโดษที่ๆเลี้ยงที่บ้าน แล้วซักพัก ก็อาจจะได้แม่กุ้งไข่พอดี อิอิอิ
หลังจากได้เลือกซื้อหาน้องกุ้งเครย์ฟิช ที่ถูกใจแล้ว เรื่องสถานที่เลี้ยง กระผมก็ได้กล่าวไว้แต่เนิ่นๆเรียบร้อยแล้ว ก็เลือกจัดหาขนาดพื้นที่เลี้ยง ตามความเป็นไปได้ และสะดวกนะครับ จากนั้น เราอาจจะมองหาวัสดุเสริมเพิ่มเติม ในการเลี้ยงกุ้งเคร์ฟิช อีกบางอย่างก็ได้ เช่น - แร่ธาตุ และ วิตามิน ปัจจุบันนี้ ร้านไม้น้ำชั้นนำหลายร้าน ได้มีการนำเข้า หรือ นำผลิตภัณฑ์ เกี่ยวกับการบำรุงรักษา สุขภาพกุ้ง มาจำหน่ายเพิ่มขึ้นกว่าสมัยก่อนมากมาย ซึ่งแม้ว่าส่วนใหญ่แล้ว จะออกแบบเพื่อนำมาใช้กับกุ้งแคระมากกว่า แต่ก็สามารถซื้อหามาบำรุงกุ้งเครฟิช กันได้ครับ พี่ๆน้องๆ ก็สามารถเลือกซื้อ เลือกหามาใช้กันได้ ตามกำลังทรัพย์ครับ เช่น แคลเซียมน้ำ , หินแร่ธาตุชนิดต่างๆ , วิตามินน้ำ ที่ช่วยเสริมพวกวิตามินที่จำเป็นบางส่วน เช่น วิตามิน C ที่มีความจำเป็นสำหรับการลอกคราบของกุ้งหรือแม้กระทั่ง วิตามิน บำรุงตับกุ้ง ปัจจุบันก็มีมาจำหน่ายเอาใจสมาชิกคนรักกุ้งกันแล้วครับ รวมทั้งยากำจัดสิ่งมีชีวิตบางอย่างเช่น พานาเลีย หรือ ยาสำหรับฆ่าเชื้อรา , เชื้อแบคทีเรีย ในตอนที่กุ้งมีปัญหาเกี่ยวกับโรค แต่สินค้าพวกนี้ จะต้องใช้อย่างระมัดระวัง ตามปริมาณที่ฉลากกำกับเอาไว้อย่างเคร่งครัดครับ
- ที่อยู่ อุปกรณ์ตกแต่งตู้ หรือที่หลบซ่อนของกุ้ง กระแสการเลี้ยงกุ้ง หรือ ปลาบางชนิดที่ต้องการที่หลบซ่อนที่เนียนตา และสวยงาม ทำให้มีบางผู้ผลิต ได้ออกแบบผลิตภัณฑ์ต่างๆ ขึ้นมาใช้เป็นบ้าน หรือ ที่หลบซ่อน ของกุ้งและปลาเหล่านั้น เช่น กระเบื้องดินเผา รูปทรงสวยงามต่างๆ บางอันก็ทำเลียนแบบขอนไม้ ไปจนกระทั่งปะการังเทียมที่มีสีสันสวยงาม ก็มีการคิดประดิษฐ์ขึ้นมา ซึ่งผู้เลี้ยงที่มีความคิดสร้างสรรค์ สามารถนำไปประดับตกแต่งตู้ได้ แต่ก็ต้องระวังในส่วนของความเป็นนักขุด นักทำลายของกุ้งด้วยเช่นกัน ซึ่งบางที การจัดเรียงวัสดุในแนวสูงๆ อาจจะเกิดโศกนาฏกรรม หล่นลงมาทับตัวกุ้งร่างกายเสียหาย หรือถึงแก่ชีวิตได้ครับ
- ระบบกรอง และวัสดุกรอง แม้ว่ากุ้งเครย์ฟิช จะมีความอดทนต่อสภาพน้ำที่ไม่ดีอยู่พอสมควร แต่การปรับปรุงคุณภาพน้ำให้ดีนั้น ย่อมทำให้กุ้งมีความสุขมากกว่า รวมทั้งลดปัญหาการเกิดโรคต่างๆ ที่จะเกิดตามมา ซึ่งการแก้ไขปัญหากุ้งเป็นโรคนั้น เป็นเรื่องยากยิ่งกว่าการป้องกันมาก ดังนั้นผู้เลี้ยงสามารถปรับปรุงในส่วนของการตั้งระบบกำจัดของเสีย หรือ ระบบกรองได้ โดยอาจจะเลือกซื้อระบบกรองที่มีคุณภาพ เช่น กรองนอก หรือ กรองข้าง และ วัสดุกรองที่มีคุณภาพมาใช้งานร่วมกัน เพื่อคุณภาพน้ำที่ดี ให้กับกุ้งเครย์ฟิชที่เลี้ยงได้ครับ เช่นหินภูเขาไฟ , ไบโอริง และวัสดุกรองอื่นๆอีกหลากหลาย ซึ่งในปัจจุบัน ก็มีให้เลือกซื้อ เลือกหากันหลายแบบ ตามกำลังทรัพย์เช่นกันครับ
เครดิตผู้เขียน : กษิดิศ วรรณุรักษ์
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น